โรคของต้นชวนชม
โรคราน้ำค้าง (Downy mildew)
สาเหตุของโรค เกิดจากเชื้อราPeronospora
parasitica ลักษณะอาการของโรค
จะพบกลุ่มของเชื้อราเป็นผงสีขาวหรือสีเทาบนใบต่อมาด้านหลังใบจะเกิดแผลสีเหลืองต่อมาเป็นสีน้ำตาล แผลค่อนข้างเป็นสี่เหลี่ยมขอบไม่แน่นอน ถ้าเป็นรุนแรง แผลจะมีจำนวนมาก ใบจะเหลืองและแห้งร่วงหล่น ใบที่อยู่ตอนล่างๆ จะมีแผลเกิดก่อน แล้วลามระบาดไปยังใบที่สูงกว่า ในต้นอ่อนจะเริ่มมีแผลสีเหลืองที่ใบเลี้ยง และมักจะหลุดร่วงไป อาจจะทำให้ต้นเติบโตช้า โทรมอ่อนแอและตายได้ ถ้าโรคระบาดในระยะติดฝักอ่อน ก็มีแผลเช่นเดียวกับแผลที่เกิดบนใบ ฝักไม่สมบูรณ์ การแพร่ระบาด
จะพบกลุ่มของเชื้อราเป็นผงสีขาวหรือสีเทาบนใบต่อมาด้านหลังใบจะเกิดแผลสีเหลืองต่อมาเป็นสีน้ำตาล แผลค่อนข้างเป็นสี่เหลี่ยมขอบไม่แน่นอน ถ้าเป็นรุนแรง แผลจะมีจำนวนมาก ใบจะเหลืองและแห้งร่วงหล่น ใบที่อยู่ตอนล่างๆ จะมีแผลเกิดก่อน แล้วลามระบาดไปยังใบที่สูงกว่า ในต้นอ่อนจะเริ่มมีแผลสีเหลืองที่ใบเลี้ยง และมักจะหลุดร่วงไป อาจจะทำให้ต้นเติบโตช้า โทรมอ่อนแอและตายได้ ถ้าโรคระบาดในระยะติดฝักอ่อน ก็มีแผลเช่นเดียวกับแผลที่เกิดบนใบ ฝักไม่สมบูรณ์ การแพร่ระบาด
สปอร์ของเชื้อราจะปลิวไปตามลมหรือติดไปกับสิ่งเคลื่อนไหวต่างๆ
แล้วตกลงบนใบพืชเข้าทำลายพืชทางปากใบ อยู่ข้ามฤดูปลูกโดยสร้างสปอร์
(ส่วนขยายพันธุ์)ผนังหนา (oospora) ซึ่งติดอยู่ตามเศษซากพืชหรืออาศัยกับต้นที่งอกเองนอกฤดู
และติดไปกับเมล็ดที่ใช้ทำพันธุ์ สภาพที่เหมาะต่อการเกิดโรค
ความชื้นสูง อุณหภูมิระหว่าง 20-24 องศาเซลเซียส
มีหมอกหรือน้ำค้างลงจัด
การป้องกันกำจัด
1.ใช้เมล็ดพันธุ์ปราศจากเชื้อ
หรือแช่เมล็ดในน้ำร้อน 50 อง เซลเซียส 20-30 นาที ก่อนปลูก
หรือคลุกเมล็ดด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช เมตาแลกซิล หรือ เมตาแลกซิล+แมนโคเซบ
ก่อนปลูก
2.ควรปลูกพืชให้มีระยะห่างพอสมควรอย่าให้แน่นเกินไป
3.เมื่อพบอาการบนใบควรพ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช เมตาแลกซิล+แมนโคเซบ, ไซบ็อกซามิล+แมนโคเซบ, ออกซาไดซิล+แมนโคเซบ, โพรพิเนบ+ไซม็อกซามิล เป็นต้น หมายเหตุ
โรคนี้ไม่ทำให้ต้นตาย แต่ทำให้การเจริญเติบโตช้า และไม่สวยงาม
โรครากเน่าและโคนเน่า
(Root
and Stem Rot)
สาเหตุเกิดจาก
เชื้อรา Phytophthora
palmivora (Butler)
ลักษณะอาการ
ต้นชวนชมที่โดนเจ้าเชื้อราตัวนี้โจมตี
จะมีอาการ ใบไม่สดใส ห่อเหี่ยว เฉา ใบจะเหลืองและร่วงหล่น
ต้องหัดเป็นคนช่างสังเกตุ เพราะบางทีมันจะไม่แสดงอาการชัดเจนนัก
กว่าจะรู้ตัว ลำต้นก็พับอ่น เรียกว่าเน่าใน
แก้ไขกันไม่ค่อยจะทันต้องหัดเป็นคนช่างสังเกตุ
เพราะบางทีมันจะไม่แสดงอาการชัดเจนนัก กว่าจะรู้ตัว ลำต้นก็พับอ่น เรียกว่าเน่าใน
แก้ไขกันไม่ค่อยจะทัน
การป้องกันและกำจัด
1. ติดตามสถานการณ์โรครากเน่าและโคนเน่า
โดยสำรวจทุกต้น 7 วัน/ครั้ง ช่วงพฤษภาคม - ธันวาคม
(ช่วงหน้าฝนของทุกปี)
2. ใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยเคมี และปูนขาว ในอัตราที่เหมาะสม เพื่อให้ดินมีสภาพเป็นดินดีทั้งทางด้านกายภาพ ชีวภาพ
และเคมี (ดินควรมีสภาพเป็นกลาง คือ pH = 6.5)
3. เครื่องปลูก(ดิน)ในกระถางควรจะทำให้โปร่ง
เพื่อที่เวลารดน้ำ แล้ว น้ำจะไม่ขัง
4. เก็บรวบรวมใบ ดอก
และผลที่เป็นโรค และร่วงหล่นอยู่ในบริเวณสวนไปเผาทำลาย
5. พบอาการของโรคเพียงเล็กน้อยที่ลำต้นหรือกิ่งแขนงใหญ่
ให้ขูดผิวเปลือกบริเวณที่เป็นโรคออก และนำไปเผาทำลาย แล้วทาแผลด้วยปูนแดง
6. พบอาการของโรครุนแรงที่ราก
ลำต้น หรือกิ่งแขนงใหญ่ ให้ใช้ฟอสฟอรัส แอซิด 40% ใส่
กระบอกฉีด (ไม่ต้องผสมน้ำ)
ฉีดเข้าที่ลำต้นหรือกิ่งในบริเวณตรงข้ามหรือใกล้บริเวณส่วนที่เป็นโรค
(บริเวณที่เป็นเนื้อไม้ดี) เพื่อปรับสภาพเซลล์ของเนื้อไม้ให้มีความทนทานต่อ
เชื้อราไฟท๊อปธอร่า
อ้างอิงhttp://www.bloggang.com/viewblog.php?id=whanyen&group=10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น